2 Omegas กับสายไนล่อน 2 Omegas กับสายไนล่อน : ประมาณเดือนพฤศจิกายนปี 2015 หนัง James Bond จะออกตอนใหม่ชื่อว่าตอนว่า "#Spectre" และพ่อหนุ่ม Bond ที่แสดงโดย Daniel Craig ของเราจะนำแฟชั่น สายไนล่อนลายเทา/ดำ มาสวมกับ Omega#Seamaster เหมือนตั้งใจจะระลึกถึงคุณปู่ Sean Connery ที่สวมนาฬิกาสายแบบนี้ใน Gold Finger ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาเรือนที่คุณปู่ใส่คู่กับสายตอนนั้นมันคือ Rolex Sub 6538 Big Crown และสายที่แกใช้เป็นสายไนล่อนเข็มขัดที่เกิดก่อนสาย Nato ถึง 10 ปี แต่เราจะพูดถึงเรืองนี้กันทีหลังนะคะ ทำไม Omega ถึงเชื่อในสายไนล่อนนัก ? เรื่องนี้เราต้องยกให้ความสำเร็จของ Omega Speedmaster Moon Watch ที่ Omega สามารถพิชิตชัยชนะการทดสอบร่วมกับนาฬิกาดัง ๆ ทั้งปวงในช่วงปี 1960 และผู้ที่ทดสอบก็ไม่ใช่คนที่จะเอนเอียงได้เหมือนผลการประกวดอื่น ๆ เพราะคือเหล่าทีมนักวิจัยจาก NASA ทั้ง ๆ ที่คนของนาซ่าพยายามเอาใจช่วยนาฬิกาแบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Hamilton แต่ก็ไม่สำเร็จ แม้แต่ Rolex ที่มีนาฬิกาเข้าข่ายอยู่เรือนเดียวคือ Daytona รุ่นเลข 4 หลัก ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับ Omega อยู่ดี ซึ่งทำให้ Omega นั่งพูดถึงเรื่องนี้ไม่เคยหยุด ทีนี้พอจะไปใช้ในอวกาศ การใช้งานจริงจะต้องเป็นสายที่เบาและปรับขนาดได้อย่างมหาศาล คือใส่ข้อมือเนื้อ ๆ ก็ได้ หรือใส่นอกชุดนักบินอวกาศก็ได้ สายไนล่อน #Valcro จึงถูกเลือกให้ใช้ในภาระกิจอย่างไร้คู่แข่ง แล้วไป ๆ มา ๆ ก็อย่างที่เห็นค่ะ นาฬิกาที่อยู่ในภาระกิจจริง ๆ สุดท้ายก็ต้องกลับมาพึ่งพาสายไนล่อนแบบนี้ทุกครั้ง คุณสมบัติเด่น ๆ ของสายไนล่อนแบบนี้คือปรับสายได้แบบไม่ยั้งเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะเอานาฬิกาไปใส่แขน หรือขาก็ยังใส่ได้ อีกอย่างที่แน่ ๆ คือมันถูกและทน คุณจะเปลี่ยนมันกี่แบบกี่ครั้งก็ได้ เพราะราคามันแค่หลักร้อย คุณสมบัติดีกว่าหนังคือไม่มีกลิ่น ล้างน้ำได้ และ หากสังเกตดี ๆ ถ้าเกิดเรามีปัญหากับ Spring Bar ด้านใดด้านหนึ่ง นาฬิกาก็จะไม่หลุดร่วงลงพื้นเพราะสายมันยาวเป็นเส้นเดียว ไม่เหมือนสายนาฬิกาทั่วไปที่ หาก Spring Bar คุณชำรุดแล้วนาฬิกาคุณอาจจะหลุดร่วงลงพื้นทันที ข้อเสียของมันอย่างนึงคือมันดูไม่แพงนี่แหละค่ะ แต่ถ้าจับถูกคู่ถูกตัว อย่างภาพที่เห็นคุณก็จะเป็นหนุ่มอินดี้ไปเลย เพราะไม่ว่าสายจะถูกจะแพง ก็ไม่สามารถลดคุณค่าตัวนาฬิกาไปได้ และทำให้คุณตระหนักถึงหน้าที่ที่แท้จริงของนาฬิกาคือบอกเวลา และติดตัวคุณไปได้ในทุกสถานการณ์
2 Omegas กับสายไนล่อน : ประมาณเดือนพฤศจิกายนปี 2015 หนัง James Bond จะออกตอนใหม่ชื่อว่าตอนว่า "#Spectre" และพ่อหนุ่ม Bond ที่แสดงโดย Daniel Craig ของเราจะนำแฟชั่น สายไนล่อนลายเทา/ดำ มาสวมกับ Omega#Seamaster เหมือนตั้งใจจะระลึกถึงคุณปู่ Sean Connery ที่สวมนาฬิกาสายแบบนี้ใน Gold Finger ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาเรือนที่คุณปู่ใส่คู่กับสายตอนนั้นมันคือ Rolex Sub 6538 Big Crown และสายที่แกใช้เป็นสายไนล่อนเข็มขัดที่เกิดก่อนสาย Nato ถึง 10 ปี แต่เราจะพูดถึงเรืองนี้กันทีหลังนะคะ ทำไม Omega ถึงเชื่อในสายไนล่อนนัก ? เรื่องนี้เราต้องยกให้ความสำเร็จของ Omega Speedmaster Moon Watch ที่ Omega สามารถพิชิตชัยชนะการทดสอบร่วมกับนาฬิกาดัง ๆ ทั้งปวงในช่วงปี 1960 และผู้ที่ทดสอบก็ไม่ใช่คนที่จะเอนเอียงได้เหมือนผลการประกวดอื่น ๆ เพราะคือเหล่าทีมนักวิจัยจาก NASA ทั้ง ๆ ที่คนของนาซ่าพยายามเอาใจช่วยนาฬิกาแบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Hamilton แต่ก็ไม่สำเร็จ แม้แต่ Rolex ที่มีนาฬิกาเข้าข่ายอยู่เรือนเดียวคือ Daytona รุ่นเลข 4 หลัก ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับ Omega อยู่ดี ซึ่งทำให้ Omega นั่งพูดถึงเรื่องนี้ไม่เคยหยุด ทีนี้พอจะไปใช้ในอวกาศ การใช้งานจริงจะต้องเป็นสายที่เบาและปรับขนาดได้อย่างมหาศาล คือใส่ข้อมือเนื้อ ๆ ก็ได้ หรือใส่นอกชุดนักบินอวกาศก็ได้ สายไนล่อน #Valcro จึงถูกเลือกให้ใช้ในภาระกิจอย่างไร้คู่แข่ง แล้วไป ๆ มา ๆ ก็อย่างที่เห็นค่ะ นาฬิกาที่อยู่ในภาระกิจจริง ๆ สุดท้ายก็ต้องกลับมาพึ่งพาสายไนล่อนแบบนี้ทุกครั้ง คุณสมบัติเด่น ๆ ของสายไนล่อนแบบนี้คือปรับสายได้แบบไม่ยั้งเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะเอานาฬิกาไปใส่แขน หรือขาก็ยังใส่ได้ อีกอย่างที่แน่ ๆ คือมันถูกและทน คุณจะเปลี่ยนมันกี่แบบกี่ครั้งก็ได้ เพราะราคามันแค่หลักร้อย คุณสมบัติดีกว่าหนังคือไม่มีกลิ่น ล้างน้ำได้ และ หากสังเกตดี ๆ ถ้าเกิดเรามีปัญหากับ Spring Bar ด้านใดด้านหนึ่ง นาฬิกาก็จะไม่หลุดร่วงลงพื้นเพราะสายมันยาวเป็นเส้นเดียว ไม่เหมือนสายนาฬิกาทั่วไปที่ หาก Spring Bar คุณชำรุดแล้วนาฬิกาคุณอาจจะหลุดร่วงลงพื้นทันที ข้อเสียของมันอย่างนึงคือมันดูไม่แพงนี่แหละค่ะ แต่ถ้าจับถูกคู่ถูกตัว อย่างภาพที่เห็นคุณก็จะเป็นหนุ่มอินดี้ไปเลย เพราะไม่ว่าสายจะถูกจะแพง ก็ไม่สามารถลดคุณค่าตัวนาฬิกาไปได้ และทำให้คุณตระหนักถึงหน้าที่ที่แท้จริงของนาฬิกาคือบอกเวลา และติดตัวคุณไปได้ในทุกสถานการณ์
Comments