top of page

Review Rolex GMT master II Steel 2018


รหัส 126710BLRO AKA Pepsi Steel 2018

Rolex GMT master II Steel 2018 Ref.126710BLRO

Special Review : Rolex GMT II Ref.126710BLRO หลังจากรอให้ความร้อนแรงลดลงมาระยะหนึ่ง วันนี้ WBL สบโอกาสที่จะมา Review นาฬิกาที่เป็น most wanted ที่สุดในเวลานี้ ถึงแม้ว่าราคาจะติด Premium เกือบเท่าตัว หรือพ่วงอีกไม่ต่ำกว่า 4 เท่าตัว แต่จากการคาดคะเนตามสถานการณ์ช่วงนี้ เรากลัวเหมือนกันว่าโอกาสที่ราคาจะลดลงไปกว่าหลัก 6 แสนบาทกำลังน้อยลงไปทุกที ต่างจาก BATMAN อย่างไร ? : ก่อนเราจะได้สัมผัส Pepsi Steel 2018 เรือนนี้ เคยคิดว่าไม่น่าจะต่างจาก GMT Blue/Black หรือ BATMAN (ซึ่งเราเองไม่ค่อยจะอินกับชื่อนี้เท่าไหร่นัก) แต่พอได้สัมผัสจริง ๆ แล้วต่างกันพอสมควรค่ะ 1) เบากว่า : น้ำหนัก Pepsi Steel 2018 ที่ยังไม่ได้ตัดสายหนักเพียง 142 กรัม จะเบากว่า Batman ร่วม 10 กรัม ทั้งนี้ก็คงเป็นเพราะสาย Jubilee ที่มีรายละเอียดข้อสายค่อนข้างเยอะ เลยกินเนื้อโลหะ 904L ออกไปพอสมควร 2) บางกว่า : Pepsi 2018 บางเพียง 12 มม วัดไม่รวมกระจกนูน Cyclops ขยายวันที่นะคะ ถ้ารวม ก็เพิ่มไปอีก 1.2 มม ซึ่งคงไม่ใช่ตัวเลขที่มีนัยสำคัญอะไร แต่ถ้าไปเทียบกับพวก Submariner ก็ต่างกันพอรู้สึกได้ที่ 12.1 / 12.7 มม อย่าลืมว่า GMT Pepsi เรือนนี้ใช้ตัวเรือนใหม่แล้ว พร้อมการใช้รหัสรุ่นใหม่อีกด้วย คงไม่แปลกที่มิติต่าง ๆ จะไม่เหมือนเดิมไปบ้าง 3) ตัวเรือนใหม่ : เมื่อไล่เรียงจากสื่อต่าง ๆ พบว่า Pepsi 2018 มีตัวเรือนที่ดูบึกบึนกว่าเล็กน้อยเนื่องจากตัวเรือนช่วงขา (LUG) มีมุมปาดค่อนข้างตรงและคม ทำให้รู้สึกเหมือนขาจะใหญ่ขึ้น ส่วนคำถามที่ว่าจะเอาสาย BATMAN มาสลับใส่กับ Pepsi 2018 ได้ไหม คำตอบคือไม่ได้เลย ถ้าใครเคยเปลี่ยนสายของ Rolex จะทราบว่าความโค้งมนของหัวสายถูกสร้างให้แนบไปกับตัวเรือน ซึ่งนั่นอาจจะพอถู ๆ ไถ ๆ ถ้าความกว้างขา (LUG) กับขนาดตัวเรือนเท่ากัน แต่ปัญหาใหญ่คือ ตำแหน่งรู Spring Bar ซึ่งถ้าแต่ละรุ่น เลื่อนตำแหน่งการเจาะรู Spring Bar เข้าไปเพียงครึ่งมิลลิเมตร นั่นคือจบ ใส่ไม่ได้ และนี่ก็เป็นปัญหาของผู้ที่ใช้สาย After Market ต้องรอจนกว่าจะมีสินค้าตรงรุ่นออกมา ไม่สามารถใช้สายที่เคยใช้ได้กับ Batman หรือ GMT รุ่นก่อนหน้านี้ได้เช่นกัน 4) เครื่องใหม่ Caliber 3285 : สำหรับ Rolex การเปลี่ยนเครื่องในนาฬิกาโมเดลเดิม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ค่ะ ที่ผ่านมา Pepsi 16710 มีการใช้เครื่อง 2 รุ่น และยังใช้รหัสรุ่นเดิม แต่ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ Rolex ให้ความสำคัญกับเครื่องรุ่นใหม่นี้อย่างมาก จนปีที่ผ่านมา Rolex หลาย ๆ รุ่นพอเปลี่ยนเครื่องก็ทยอยเปลี่ยนหมายเลขรุ่นกันหมด Rolex ใส่เทคโนโลยี่ลงในเครื่อง 3285 ใหม่นี้ถึง 10 รายการ ไม่ว่าจะเป็น Chronergy Escapement ใหม่ที่ทำด้วยนิกเกิ้ลฟอสเฟต โลหะผสมสำคัญที่ทำให้พลังสนามแม่เหล็กทำอะไรนาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้มากนัก สปริงสำรองพลังงานใหม่ที่เพิ่มพลังให้เดินยาวนานได้เพิ่มขึ้นอีก 30% รวมถึงการปรับตั้งความเที่ยงตรงจนท้าชนมาตรฐานนาฬิการะดับสูงอย่าง Patek Philippe ที่อ้างอิงความเที่ยงตรงไปถึง -/+2 วินาทีต่อวัน เครื่องรุ่นใหม่ ๆ ของ Rolex นี้แม้ว่าจะประกอบเครื่องลงตัวเรือนครบแล้ว ความเที่ยงตรงก็ยังอยู่ในเกณฑ์ Superlative Chronometer เหมือนเดิม 5) สาย Jubilee : เนื่องจากใช้สาย Jubilee เป็นสาย 5 ส่วน (3 ข้อกลางขัดเงา 2 ข้อซ้ายขวาขัด Satin) แต่ใช้บานพับแบบของรุ่น GMT ปกติ ต่างจากสาย Jubilee ในกลุ่ม Datejust ที่ซ่อนบานพับจนเหลือแค่มงกุฎ Rolex คงต้องการให้ Pepsi Steel 2018 ยังคงมีกลไก Easylink ที่มีประโยชน์มากในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะเดินทางบนเครื่องบิน ข้อมือจะขยายตัว Easylink จะช่วยขยายสายทีตัดไว้พอดีให้เพิ่มขึ้นอีก 5 มม เพียงพอให้รู้สึกสบายยามเดินทาง หรือแม้แต่บางท่านชอบใส่นาฬิกานอน ก็ช่วยได้มากเช่นกัน แล้วสรุปสาย Jubilee มันจะเข้ากันกับ Rolex Sport หรือเปล่า? คำตอบค่อนข้างเฉพาะตัวแต่ละบุคคล แต่ที่เรารู้สึกได้คือสาย Jubilee ให้สัมผัสกับข้อมือที่ละเอียดกว่าสาย Oyster แน่นอน ถ้าคุณเคยใส่ Submariner แล้วสลับมาใส่ Pepsi เรือนนี้จะรู้สึกเบาข้อมือขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักต่างกันเพียงไม่ถึง 20 กรัม จุดที่อาจจะช่วยให้คุณผู้ชายได้รับการอนุมัติเร็วฉับไว คือคุณผู้หญิงใส่ได้ดีมากค่ะ ไม่แพ้ Daytona ที่แทบจะเป็นนาฬิกา Unisex อยู่แล้ว Pepsi Steel 2018 ก็น่าจะเป็น Rolex Sport อีกรุ่นนึงที่ผู้หญิงใส่แล้วสวยแน่นอน เนื่องจากสาย Jubilee ออกแนวหรูหราแถมยังมีสีสันที่สวยงาม อาจจะมีแฟชั่นสไตล์ลิสต์บางท่านแนะนำว่าถ้าคุณสูงไม่ถึง 160 ก็ไม่ควรใส่ Rolex Sport 40 มม ใด ๆ เลย แต่ถ้าคุณสูงกว่านั้น Pepsi เรือนนี้จะทำให้คุณดูดีขึ้นแน่นอน ทำไมต้องออกแบบให้สลับสายกับ GMT รุ่นเก่าไม่ได้? Rolex วางแผนให้ Pepsi Steel 2018 ไม่สามารถสลับสาย Oyster ของ GMT Master II รุ่นเก่ารหัส 116710 เป็นข้อดีที่ทำให้ลูกค้า Pepsi White Gold 116719BLRO ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเมื่อต้องจ่ายเงิน 7 หลักแลกกับของที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ และไม่ทำให้เกิดความสับสนระหว่าง GMT Pepsi White Gold ที่ออกมาปี 2014 กับ Pepsi Steel 2018 เรือนนี้ แต่ในความเป็นจริง ถ้าคุณได้ลองใส่ Pepsi White Gold สลับกับ Pepsi Steel 2018 ความรู้สึกจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากน้ำหนักต่างกันถึง 80 กรัม ย่อมให้ความรู้สึกที่ต่างกันมาก 6) Cerachrom Bezel น้ำเงินแดง : นี่คงเป็นจุดเด่นที่สุดของนาฬิกาเรือนนี้ หากปราศจากสีน้ำเงิน/แดง คงจะไม่ร้อนแรงขนาดนี้ เพราะว่านอกจากจะสวยแล้ว คุณควรทราบว่า สีทั้งสองไม่ได้มาจาก Cerachrom สองชิ้น แต่มันคือชิ้นเดียวกัน Rolex ขายจุดนี้ตั้งแต่ GMT Blue/Black แล้วว่า การสร้างสีสองสีใน Cerachrom ชิ้นเดียวมันยากระดับขั้นสุด ต้องยิงสีกันระดับโครงสร้างโมเลกุลกันเลยทีเดียว ทำให้ยากต่อการเลียนแบบ และยังตอกย้ำให้ย้อนเวลากลับไปถึงจุดกำเนิด GMT Master ตั้งแต่รุ่น 6542 ซึ่ง Bezel ฝั่งสีน้ำเงินเข้มคล้ายสี Lapis Lazuli (#2767AD) สีประจำสายการบิน Pan American World Airways (PAN AM) ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ Rolex ริเริ่มทำนาฬิการุ่นนี้ออกมาตั้งแต่ปี 1955 ส่วนสีแดงเป็นสีตรงข้าม เพื่อให้บอกว่า เธอ(สีแดง) คือกลางวัน ส่วนฉัน(น้ำเงิน) คือกลางคืน ความคิดเห็นจากเรา : ถามว่าสวยไหม ตรงนี้ฟันธงได้เลยจริง ๆ มันสวยมาตั้งแต่ปี 2014 ในวันที่ Pepsi White Gold รหัส 116719BLRO คลอดออกมาแล้วค่ะ สีน้ำเงินบน Cerachrom Bezel ทำได้ใกล้เคียงกับสีประจำตัวดั้งเดิมของสายการบิน PAN AM และทำได้ดีกว่าขอบอลูมิเนียมอโนไดซ์ ( หรือที่เราเรียกว่า 'ขอบฟิลม์') ที่สีจัดจ้านกว่าแถมอาจจะมีการเปลี่ยนสีได้ตามเวลาที่ผ่านไป แต่ก็นั่นแหละ สาย Vintage อาจจะชอบแบบนั้น สีแดงที่ตัดเข้ามายิ่งส่งผลทำให้สีน้ำเงินดูสง่าล้ำมากขึ้นไปอีก แต่การต้องจ่ายเงินหลักล้านแลกกับวัสดุ White Gold เพื่อได้เป็นเจ้าของ Cerachrom Bezel น้ำเงิน/แดง เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนัก เนื่องจากนาฬิกาหลักล้านในช่วงเวลานั้นมีให้เลือกมากมาย หลาย ๆ ท่านอาจจะหนีไปทางแบรนด์จตุรเทพอย่าง Patek 5712 หรืออะไรแบบนั้นมากกว่า ถึงวันนี้ Pepsi Steel 2018 ราคายังคงติด Premium ถึงเท่าตัว แต่ก็ยังถูกกว่ารุ่น White gold อยู่เท่าตัวเช่นกัน ส่วนตัวก็กลัวเหมือนกันที่ราคาจะค้างฟ้าอยู่แค่นี้ ไม่ลงมาอีก เพราะจากการสังเกตช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มของ Social Network ทำให้กระแสทุกอย่างรุนแรง จากนี้ถ้าไม่มีอะไรมาต้าน คุณต้องไม่ลืมว่ามันคือเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของ Rolex GMT Master นับตั้งแต่ถูกสร้างขึ้นมา เคยได้ยินลูกค้าหลายท่านบอกว่าทำใจไม่ได้ ไม่ชอบสาย Jubilee กับ Rolex Sport เอามาก ๆ ในอีกมุมนึงต้องไม่ลืมว่า GMT Master สีน้ำเงิน/แดง แบบนี้ สามารถทำให้ดูดีได้ในสายแบบอื่น อย่างเช่น สายหนังสีน้ำตาล (ถ้าคุณเคยเห็น รุ่น 1675 ในสายหนังแล้วคงเข้าใจ) ดังนั้น ถ้าคุณเกิดไม่ถูกกับสาย Jubilee อย่างแรง + กับอยากจะเปลี่ยนสายเพื่อปกป้องมูลค่าของนาฬิกาเรือนนี้ในอนาคต การไปทางสายหนังสีน้ำตาลอาจจะเป็นไอเดียที่ทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับ Daytona, Pepsi ก็คือ Pepsi ไม่ว่ามันจะอยู่บนสายอะไร เรายังแอบคิดว่า คงเป็นแผนของพี่น้องบ้านนี้ที่ออก Tudor Black Bay GMT "Pepsi" มาในเวลาเดียวกัน แถมมีเวอร์ชั่นสายหนังและ NATO ให้ดูเป็นแบบอย่างด้วย ขมวดปมออกมาได้ความว่า ถ้าไม่ติดราคา premium ป่านนี้แฟน Rolex คงมีนาฬิการุ่นนี้เป็นยาสามัญประจำบ้านไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือกลไกตลาดที่ป้องกันตัวมันเองและเพื่อนร่วมสำนักของมันเช่นกัน ลองคิดดูว่าถ้า Rolex ผลิต Pepsi ออกมา แค่เท่ากับ Submariner คงจะสร้างความลำบากให้กับนาฬิการุ่นอื่น ๆ มากมาย ทั้งผู้ที่ซื้อไปแล้ว และผู้ที่ยังไม่ซื้อ คงจะยุ่งกันน่าดูเลยค่ะ


Featured Posts
Recent Posts
bottom of page